“จอร์เจีย” ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีวัฒนธรรมอาหารโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมชม หนึ่งในนั้นคือ“เชิร์ชเคลา”(Churchkhela) ขนมหวานประจำชาติที่ทำจากน้ำองุ่น ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝาก

ที่โรงกลั่นเหล้าองุ่นของ จอร์จ ปิราแดชวิลีในภูมิภาคกาเคติ ทางตะวันออกของจอร์เจีย เจ้าของไร่องุ่นและเจ้าของโรงแรมรายนี้ กำลังโชว์การต้มน้ำองุ่นที่เหลือจากผลผลิตของการเก็บเกี่ยวในปีนี้ เพื่อทำเชิร์ชเคลา

เนปาลออกทะเบียนสมรสให้คู่รักเพศเดียวกันคู่แรก

เปิด 10 อันดับเมืองค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกประจำปี 2023

เกษตรกรเกาหลีใต้บุกทำเนียบประธานาธิบดี ร้องยกเลิกแบนเนื้อสุนัข

ปิราแดชวิลีเปิดเผยวิธีการทำขนมหวานชนิดนี้ ต้องคนน้ำองุ่นด้วยความเร็วต่อเนื่อง และต้องใช้อุณหภูมิพอเหมาะ เพื่อไม่ให้น้ำเดือดจนเกินไป ก่อนที่ส่วนผสมทั้งหมดในถังขนาดใหญ่ จะค่อย ๆ เหนียวข้น หลังผ่านไปเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ซึ่งเป็นงานที่ต้องใช้แรงหนักมาก และนำถั่วชนิดต่าง ๆ รวมถึง วอลนัท ที่ร้อยเป็นเส้นยาวมาชุบและนำไปตากให้แห้ง

ชาวจอร์เจีย มักจะตุนเชิร์ชเคลาไว้เป็นของว่างให้พลังงาน ไม่ต่างอะไรกับขนมสนิกเกอร์หรือมาร์ส รวมถึงพกติดตัวไปด้วยระหว่างออกไปล่าสัตว์หรือการเดินทางไกล ๆ เนื่องจากกินพื้นที่ในกระเป๋าน้อย

เจ้าของไร่องุ่นและเจ้าของโรงแรมรายนี้ระบุด้วยว่า การทำเชิร์ชเคลาสนุกมาก ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเรียนรู้ขั้นตอนการทำขนมชนิดนี้กันเป็นจำนวนมาก“เชิร์ชเคลาอร่อยมาก เด็ก ๆ ชอบมาก กระบวนการทำเชิร์ชเคลาก็สนุกมาก มีนักท่องเที่ยวมาที่นี่เยอะมาก และไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนในครอบครัวเราด้วยที่มารับประสบการณ์นี้ด้วย”คำพูดจาก สล็อตออนไลน์

นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจอร์เจีย มักจะเห็นขนมหวานชนิดนี้ ที่นอกจากจะมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวจากการชุบด้วยน้ำองุ่นต้มสุกแล้ว ยังมีรสชาติจากน้ำผลไม้ชนิดอื่น ๆ แขวนอยู่ตามแผงลอยในตลาด และร้านค้าต่าง ๆ ให้ได้ลิ้มลองและเลือกซื้อเลือกหาติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝากสุดประทับใจ

แต่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวอาร์เจนตินา อย่าง ฟาบริซิโอ ขนมหวานสีน้ำตาลอมม่วง ที่มีราคาไม่ถึง 1 ดอลลาร์ต่อแท่ง ในกรุงทบิลิซี เมืองหลวงของจอร์เจีย อาจต้องใช้เวลาในการทำความคุ้นเคยเล็กน้อย

“ผมชอบเชิร์ชเคลา เมื่อได้ลองชิมครั้งแรก มันน่าสนใจมาก จริงๆ แล้ว ในตอนแรก ผมไม่ค่อยชอบมันมากนัก เพราะมันแปลกสำหรับผมมาก แต่พอได้ลองแล้ว ขนมรสชาติดีมากขึ้นเรื่อย ๆ”ฟาบริซิโอบอก

ขณะที่ “กวานต์ซา เกดาชวิลี” หญิงสาวชาวจอร์เจียรายหนึ่งที่มาเข้าร่วมกิจกรรมการสัมผัสประสบการณ์ในการทำขนมเชิร์ชเคลาในกรุงทบิลิซี ระบุว่า จะเอาขนมนี้ไปให้หลานชาย เพราะปัญหาหน้าตาที่ค่อนข้างแปลกของขนมเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเด็ก ๆ ชาวจอร์เจีย

เธอบอกว่า“บอกตรง ๆ เลยว่าจะเอาไปให้หลานชาย ส่วนตัวแล้วฉันชอบขนมประจำชาติจอร์เจียอันนี้ ปกติจะซื้อในช่วงปีใหม่ แต่ตอนนี้อดไม่ได้ถ้าจะต้องพลาดโอกาสนี้ไป”

สำหรับวัฒนธรรมส่วนใหญ่ของจอร์เจีย ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างรัสเซีย และตุรกี บนเนินขาทางตอนใต้ของเทือกเขาคอเคซัส มีศูนย์กลางอยู่ที่ประเพณีการทำอาหารและการผลิตไวน์ที่มีมาอย่างยาวนานนับพันปี จึงทำให้อาหารจอร์เจีย มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีความหลากหลาย

นอกจาก “เชิร์ชเคลา” ขนมขบเคี้ยวแบบแท่ง ที่ช่วยเพิ่มความหวานให้กับอาหารมื้อหนักและมักจะมีรสชาติเผ็ดร้อนแล้ว ยังมี “คาจาปูรี” (Khachapuri) ขนมปังอบแป้งบางกรอบใส่เนยและไข่ รวมถึง “คินกาลี” (KhinKali) เกี๊ยวนึ่งไส้เนื้อสัตว์ชนิดต่าง ๆ ซึ่งมีต้นกำเนิดจากพื้นที่แถบภูเขาทางตอนเหนือของประเทศด้วย

ภาพจาก Reuters

By admin